ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โรงเรียนวัดบางช้างใต้ (กิตติวิทยากร) ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม ตามประวัติตั้งขึ้นปี 2464 เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีแค่ชั้นปีละห้อง ตัวผมเองตอนย้ายมาเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ราวปี 2533 (แบบไม่ค่อยเต็มใจนัก) ยังเรียนอยู่ที่อาคารเรียนหลังเก่า ก่อนจะย้ายไปสร้างที่ใหม่หลังผมเรียนจบออกไปนานแล้ว อาคารที่ว่าเป็นอาคารไม้ 2 ชั้นซึ่งตอนนี้แทบจะทิ้งร้าง ด้านหน้ายกพื้นปูนสูง ถัดไปเป็นเสาธงอยู่ชิดกับรั้วโรงเรียน ผมยังจำได้ดีถึงความเท่ห์ ของรูปปั้นช้างหัวเสือที่เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่หน้าเสาธง ซึ่งเป็นโลโก้ประจำตำบล (เวอร์ชั่นเต็มมีสามนายพรานขี่ด้วย) เพื่อนบอกว่าก่อนผมมา ช้างหัวเสือยังพ่นน้ำออกจากปากได้

ทั้งๆที่มีสิ่งหนึ่ง ซึ่งผ่านตาผมบ่อยกว่านั้นเมื่อไปโรงเรียน แต่กลับนึกถึงมันน้อยมากเวลานึกถึงโรงเรียนเก่า โดยปลายเดือนกันยายน ปี 2560 ผมลงจากเชียงใหม่กลับไปเยี่ยมบ้านที่นครปฐม จู่ๆ ความทรงจำบางอย่างเกี่ยวกับโรงเรียนกลับแว้บขึ้นมาชั่วขณะ เลยขอให้น้องสาวขับรถไปดูโรงเรียนหน่อย สิ่งที่ผมพบช่วยรื้อความทรงจำกลับคืนมาใหม่เผชิญอดีตอันลางเลือน ที่กำลังโฟกัสชัดเปรี๊ยะอยู่ตรงหน้า

ใช่จริงๆ ด้วย โรงเรียนผมมี “เสา 6 หลักประการ ของคณะราษฎร” (นี่หว่า)

ไม่ผิดแน่นอน มันเป็นเสาปูนธรรมดาๆ ไม่งดงามน่าดู ยอดบัวตูม ตั้งบนบัวลูกแก้วอกไก่รองรับด้วยตัวเสาหกเหลี่ยม ตอนบนยอดปั้นปูนเป็นกระจังคว่ำ ทาสีขาว บัวและตัวหนังสือ ตอนนี้ทาสีแดง (จำได้ว่าสีน้ำเงิน) มีทั้งหมด 6 ต้น ตั้งเรียงลำดับกัน ตามหมายเลขไทยตอนบนของเหลี่ยมด้านที่หันไปทางเสาธงใต้หมายเลขมีข้อความปูนปั้นแสดง “หลัก 6 ประการของคณะราษฎร” ตามนี้

๑ เอกราช
๒ เศรษฐกิจ
๓ ปลอดภัย
๔ เสมอภาค
๕ เสรีภาพ
๖ การศึกษา

จำได้ว่าตอนยังเรียนอยู่ ผมกับเพื่อนเดินไล่เรียงอ่านข้อความบนเสาทั้ง 6 ต้นด้วยความรู้สึกชอบกล และนึกคิดเอาเองว่าเป็นคำขวัญ (แปลกๆ เพราะไม่คล้องจองกัน) ของโรงเรียนเมื่อนานมาแล้ว เพราะตอนนั้นเสาก็ดูเก่า และโรงเรียนเองไม่เคยให้ท่องหรือมีคำอธิบายใดๆ ออกมาแล้วก็ปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้ค้างคาใจอะไรกับมันอีก ตอนนี้ผมยังไม่ได้สืบสาวที่มาที่ไปของเสามากนัก แต่เชื่อว่าน่าจะสร้างขึ้นหลังปี 2482 ไม่นานนัก อนุมานจากเสาบัวตูมหลัก 6 ประการในโปสเตอร์ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร์ไทย” ขนาบพานรัฐธรรมนูญ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เสาหลัก 6 ประการของโรงเรียนวัดบางช้างใต้นำมาปรับเสากลมให้เป็นเสาหกเหลี่ยมแต่ยังคงลำดับเลขและข้อความของหลัก 6 ประการไว้คล้ายในโปสเตอร์

หลัก 6 ประการของคณะราษฎรอยู่ในประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1 ซึ่งคณะราษฎรใช้เป็นแนวนโยบาย ในการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 พบได้เสมอในศิลปะ สถาปัตยกรรมงานประดับตกแต่ง หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับคณะราษฎรพอๆ กับโลโก้พานรัฐธรรมนูญซึ่งนิยมอ้างอิงให้สอดคล้องกับจำนวน 6 เช่น ป้อมหกเหลี่ยมเทินพานรัฐธรรมนูญของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เสามุขด้านหน้าอาคารสถานที่ราชการมี 6 ต้น และน่าสนใจที่โรงเรียนวัดเล็กๆ ในต่างจังหวัดแห่งนี้ ก็ลงทุนสร้างเสาคณะราษฎรขึ้นมากับเขาด้วยนิทรรศการ [ของ] คณะราษฎร โดยชาตรี ประกิตนนทการ และกิตติมา จารีประสิทธิ์ เมื่อ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา นำสิ่งละอันพันละน้อยเกี่ยวกับคณะราษฎรมาจัดแสดงสะท้อนให้เห็นว่าอุดมการณ์และสัญลักษณ์ของคณะราษฎร ได้แพร่หลายไปทั่ว จนถึงระดับรากหญ้าของสังคมไทยผ่านผลิตภัณฑ์นานาชนิด

ทำไมความทรงจำเรื่องเสาหลัก 6 ประการของผมจึงรางเลือน ?

เรื่องนี้มีคำอธิบายที่น่าฟังกว่าการจะบอกว่าผมลืม (ก็อาจลืมจริงๆ) แน่นอนว่าหลังจากคณะราษฎรถูกพลิกเกมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ อุดมการณ์และผลผลิตของคณะราษฎรในทางการเมืองและวัฒนธรรม ก็เริ่มถูกแย่งชิงพื้นที่และปรับเปลี่ยนคำอธิบายใหม่ กลายเป็นผู้ชิงสุกก่อนห่าม ผมไม่เคยผ่านหูผ่านตาหลัก 6 ประการ ในหนังสือเรียนราวกับเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในพิภพหนังสือที่อ่านถ้ามีเรื่องราวของคณะราษฎรล้วนจูงใจให้เชื่อว่าคนกลุ่มนี้เป็นผู้ร้ายในประวัติศาสตร์ มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของคณะราษฎรถูกตีตราว่าด้อยค่า (เหมือนเสาหลัก 6 ประการที่โรงเรียน) เมื่อเทียบกับวัดวาอารามตามจารีตประเพณีอันวิจิตรต่อเมื่อเริ่มเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงรู้ว่าคือหลัก 6 ประการของคณะราษฎร แต่ก็ไม่เคยหวนคิดถึงเสาหลัก 6 ประการที่โรงเรียนอยู่ดี

ดูเหมือนว่าเสาทั้ง 6 ต้นกับผมไม่ติดค้างความทรงจำต่อกันมานานพอควรแล้วทำไมวันดีคืนดีก็พร้อมใจผุดขึ้นมาทวงความทรงจำกับผมเอาดื้อๆ ?

อาจกล่าวได้ว่าความวุ่นวายทางการเมืองในรอบสิบปีเศษมานี้ ช่วย CPR ลมหายใจของคณะราษฎรขึ้นอีกครั้ง งานเขียน งานสัมมนา กิจกรรมทางการเมืองเกี่ยวกับคณะราษฎรผุดขึ้นมาราวกับคืนชีพในวันพิพากษา ชาตรี ประกิตนนทการ อธิบายว่าคณะราษฎรเป็นกลุ่มบุคคลทางประวัติศาสตร์ที่ถือกำเนิดถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อก่อการ 24 มิถุนายน 2475 มีอายุขัยเพียง 15 ปีก็ค่อยๆ ตายจากไปพร้อมกับความทรงจำที่ถูกฝังกลบครั้งที่ 2 หลังรัฐประหาร 2549 ในฐานะวีรชนประชาธิปไตย ขณะที่ธนาพล อิ๋วสกุล กล่าวถึงกำเนิดใหม่ครั้งที่ 3 ของคณะราษฎรหลังการล่องหนของหมุดคณะราษฎรและแทนที่ด้วยหมุดหน้าใสเมื่อเดือนเมษายน 2560

ฉะนั้น แม้ความทรงจำของคณะราษฎรจะถูกฝังกลบ ถูกลบความทรงจำแต่การคืนชีพของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ก็นับมีพลังมากพอสำหรับผมในการกู้คืนความทรงจำส่วนลึกในวัยเยาว์ที่ถูกทำให้ลืมเลือนให้แจ่มชัดนำพาตัวเองมายังโรงเรียนเก่า ยืนเพ่งมองเสาหลัก 6 ประการของคณะราษฎรด้วยความทรงจำใหม่ที่คราวนี้ยากจะลบเลือน

ขอขอบคุณ รศ.ชาตรี ประกิตนนทการ สำหรับภาพถ่ายโปสเตอร์ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร์ไทย”

 

บทความโดย พิชญา สุ่มจินดา (Pitchaya Soomjinda)
https://web.facebook.com/ห้องเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์-Art-History-Classroom-Avatar-102035461365484/