“หมุดคณะราษฎร” หรือชื่อเรียกทางการว่า “หมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ” เป็นวัตถุแห่งความทรงจำสมัยคณะราษฎรที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 หมุดนี้ถูกฝังตรึงบริเวณกลางลานพระราชวังดุสิต ซึ่งตรงกับตำแหน่งที่พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎร ได้ยืนอ่านประกาศคณะราษฎรเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในช่วงย่ำรุ่งของวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 หมุดคณะราษฎรจึงเป็นหมุดหมายของการสิ้นสุดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และการเริ่มต้นระบอบรัฐธรรมนูญ ตลอดจนเกี่ยวพันกับความทรงจำว่าด้วยการสถาปนาระบอบรัฐธรรมนูญของคณะราษฎร ถึงแม้ว่าหมุดคณะราษฎรจะค่อย ๆ เลือนหายไปจากความทรงจำสาธารณะภายหลังการสิ้นสุดอำนาจของคณะราษฎรนับตั้งแต่ พ.ศ. 2490 แต่จากการรื้อฟื้นประวัติศาสตร์และความทรงจำเกี่ยวกับคณะราษฎรในสังคมไทยนับตั้งแต่ทศวรรษ 2520 ส่งผลให้หมุดคณะราษฎรค่อย ๆ กลับมามีความสำคัญมากขึ้น จนกลายเป็นพื้นที่ทางการเมืองสำหรับจัดพิธีรำลึกถึงการปฏิวัติสยามในเช้าวันที่ 24 มิถุนายนของทุกปีนับตั้งแต่ทศวรรษ 2540
จุดเริ่มต้นของหมุดคณะราษฎรเกิดขึ้นช่วงต้นปี พ.ศ. 2479 จากดำริของหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกสโมสรคณะราษฎร มีความประสงค์จะสร้างหมุดที่ระลึกเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการปฏิวัติสยาม เมื่อแนวคิดนี้ได้รับความเห็นชอบจากพระยาพหลฯ ทางสโมสรคณะราษฎรได้เป็นเจ้าภาพจัดทำหมุดที่ระลึก โดยมีพระพรหมพิจิตร อาจารย์โรงเรียนศิลปากร เป็นผู้ออกแบบ ปั้น และหล่อหมุดนี้ หมุดคณะราษฎรเป็นหมุดสำริดรูปวงกลมมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 นิ้ว มีข้อความว่า “ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญเพื่อความเจริญของชาติ” ตรงกลางหมุดมีลวดลายดอกซีกดอกซ้อนคล้ายกลีบดอกไม้ผ่าครึ่ง หมุดคณะราษฎรได้ประกอบพิธีฝังหมุดในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2479 เวลา 14.30 น. ณ ลานพระราชวังดุสิต มีพระยาพหลฯ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะราษฎรเป็นประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส และมีพระธรรมโกศาจารย์ (ปลด) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ท่ามกลางผู้เข้าร่วมพิธีที่ประกอบด้วยคณะผู้ก่อการที่เคยร่วมตายในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
การฝังหมุดคณะราษฎรเมื่อปี พ.ศ. 2479 อยู่ภายใต้บริบททางการเมืองที่ฝ่ายคณะราษฎรได้ตระหนักถึงความสำคัญและเริ่มดำเนินการจัดการความทรงจำสาธารณะเกี่ยวกับการปฏิวัติสยาม เริ่มต้นจากงานรำลึกถึงการปฏิวัติสยามและการได้รับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวในเดือนมิถุนายน ถัดมาเป็นการรำลึกถึงการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญผ่านพิธีเปิดอนุสาวรีย์ปราบกบฏในเดือนตุลาคม และสุดท้ายเป็นการเน้นย้ำถึงจุดเริ่มต้นของระบอบรัฐธรรมนูญที่เป็นหมุดหมายความเจริญงอกงามของประเทศสยามผ่านพิธีฝังหมุดคณะราษฎรในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามการฝังหมุดอย่างแนบเนียนลงบนพื้นถนนบริเวณลานพระราชวังดุสิต ย่อมสะท้อนการเมืองของความทรงจำที่รัฐบาลพระยาพหลฯ ยังคงพยายามประนีประนอมไม่แตกหักกับความทรงจำของชนชั้นนำระบอบเก่าเหนืออดีตพื้นที่ทางอำนาจของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้หมุดที่ระลึกชิ้นนี้กลับเป็นวัตถุสัญลักษณ์ทางการเมืองที่มีพลังน้อยกว่าสัญลักษณ์พานรัฐธรรมนูญที่ปรากฏทั่วไปตามตราสัญลักษณ์ อนุสาวรีย์ และวัตถุสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับระบอบใหม่ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลหลวงพิบูลสงครามได้สร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกลางถนนราชดำเนินในปี พ.ศ. 2482 อนุสาวรีย์นี้จึงกลายเป็นอนุสรณ์แห่งการระลึกถึงการปฏิวัติสยามที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังขึ้นแทนที่หมุดคณะราษฎร
หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2490 หมุดคณะราษฎรได้เลือนหายไปจากความทรงจำสาธารณะเช่นเดียวกับการสิ้นสุดอำนาจของคณะราษฎร ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเข้าสู่ยุคเผด็จการทหารของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยังมีการรื้อถอนหมุดคณะราษฎรออกจากลานพระราชวังดุสิต แต่หลังจอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรม หมุดได้ถูกนำกลับไปฝังไว้ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง จนล่วงเข้าสู่ทศวรรษ 2520 เมื่อมีการรื้อฟื้นประวัติศาสตร์คณะราษฎรในสังคมไทย หมุดคณะราษฎรจึงได้รับความสนใจมากขึ้นผ่านการนำเสนอภาพหมุดนี้ตามสิ่งพิมพ์และนิทรรศการ รวมถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับหมุดชิ้นนี้จากความทรงจำของบุคคลต่าง ๆ ถึงกระนั้นหมุดคณะราษฎรยังคงเป็นวัตถุที่ยังไม่ทรงพลังทางการเมืองเช่นเดิม แม้ว่าในบางปีจะมีการจัดงานรำลึกถึงการปฏิวัติสยามในช่วงเช้าวันที่ 24 มิถุนายน แต่กิจกรรมนั้นเล็กมากจนไม่มีนัยทางการเมือง อย่างไรก็ตามภายหลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2549 เมื่อเกิดปรากฏการณ์บูรณปฏิสังขรณ์คณะราษฎรขึ้นมาใหม่ในสังคมไทย ส่งผลให้บริเวณหมุดคณะราษฎรถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงถึงการปฏิวัติสยามมากขึ้นและผสมผสานเข้ากับการต่อต้านรัฐประหารอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดกิจกรรมใหญ่เนื่องในวาระ 80 ปีการปฏิวัติสยาม เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ภายหลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 พลังอนุรักษ์นิยมได้พยายามลบความทรงจำเกี่ยวกับคณะราษฎรอีกครั้ง บริเวณหมุดคณะราษฎรไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมทางการเมืองใด ๆ และตามมาด้วยการรื้อถอนทำลายหมุดคณะราษฎรในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560 อย่างไร้ร่องรอยและแทนที่ด้วยหมุดปริศนาชิ้นใหม่ อันปราศจากรากเหง้าของประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทยโดยสิ้นเชิง ปัจจุบันบริเวณลานพระราชวังดุสิตมีการสร้างรั้วกั้นเป็นเขตพระราชฐาน และมีการปิดทับตำแหน่งหมุดคณะราษฎรเดิมด้วยแปลงดอกไม้ประดับพระบรมรูปทรงม้า
รูปภาพ
ยุคที่ ๑ กำเนิดวัตถุสิ่งของคณะราษฎรพ.ศ. ๒๔๗๕ ถึง ๒๔๙๐
ยุคที่ ๒ คณะราษฎรที่ถูกลืมพ.ศ. ๒๔๙๐ ถึง ๒๕๔๙
ยุคที่ ๓ การเกิดใหม่ครั้งที่สองของคณะราษฎรพ.ศ. ๒๕๔๙ ถึง ๒๕๕๗
ยุคที่ ๔ การเกิดใหม่ครั้งที่สามของคณะราษฎรพ.ศ. ๒๕๕๗ ถึง ปัจจุบัน
คลิปวิดีโอ
พิกัดสถานที่
The People's Party Plaque used to be installed on the surface of the plaza near the Equestrian Statue of King Rama V. It was removed and replaced by the Smooth-Faced Plaque, which has now been removed.